Considerations To Know About โรครากฟันเรื้อรัง
Considerations To Know About โรครากฟันเรื้อรัง
Blog Article
แพทย์/ทันตแพทย์วินิจฉัยโรคปริทันต์ได้จาก
ฟันที่รับการรักษาจะอยู่ได้นานเท่าใด
หมั่นทำความสะอาดซอกฟัน โดยการใช้เส้นใย หรือไหมขัดซอกฟันเป็นประจำเพื่อขจัดคราบต่าง ๆ ที่สะสมตามซอกฟันออก
“เพชรเวช” คือ คำที่ใช้เรียกแทนผู้ให้บริการผ่านทางเว็บไซต์โรงพยาบาลเพชรเวช ()
ช่วยป้องกันการแพร่ขยายบริเวณของการติดเชื้อ
ปรึกษาปัญหาสุขภาพ กิจกรรมและโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์
โรคไตเรื้อรัง: หลายการศึกษาพบว่า โรคปริทันต์เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคไตเรื้อรัง และโรคไตเรื้อรังก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคปริทันต์ รวมถึงเมื่อเป็นโรคไตเรื้อรังและเกิดโรคปริทันต์ขึ้นพบว่า โรคปริทันต์จะเป็นสาเหตุการตายของผู้ป่วยโรคไตฯได้สูงกว่าในผู้ป่วยโรคไตฯที่ไม่มีโรคปริทันต์
อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการเข้ารับการรักษารากฟัน
สาเหตุของโรคเหงือกอักเสบคือ “คราบจุลินทรีย์” ซึ่งเกิดจากการสะสมของเชื้อโรคที่ปะปนอยู่ในน้ำลายลงบนตัวฟัน ลักษณะของคราบจุลินทรีย์เป็นคราบสีขาวอ่อนนุ่ม เมื่อมีปริมาณน้อยมักจะมองไม่เห็นเนื่องจากมีสีกลืนไปกับตัวฟัน หากคราบจุลินทรีย์ถูกทิ้งไว้นานจะเกิดการสะสมแร่ธาตุเกิดเป็น “หินน้ำลายหรือหินปูน” ซึ่งจะส่งเสริมให้มีการสะสมของคราบจุลินทรีย์มากขึ้น เชื้อโรคที่เกาะบนหินน้ำลายนี้จะผลิตสารพิษ โรครากฟันเรื้อรัง ทำให้ร่างกายมีการตอบสนองจนเกิดการอักเสบของเหงือกขึ้น โรคเหงือกอักเสบหากทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ในผู้ป่วยบางรายจะกลายเป็น “โรคปริทันต์อักเสบ” (สมัยก่อนเรียกโรครำมะนาด) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียฟันในวัยผู้ใหญ่
การรักษารากฟัน คือ การทำความสะอาด “คลองรากฟัน” หรือ “โพรงประสาทฟัน” ที่แบคทีเรียเข้าไปให้ปราศจากเชื้อ เพื่อให้อาการเจ็บปวดหายไป และสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยไม่ต้องถอนฟันทิ้งและมีประสิทธิภาพใกล้เคียงฟันปกติ
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาอย่างเคร่งครัดหากต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดฟันอย่างไหมขัดฟัน แปรงสำหรับซอกฟัน หรือเครื่องมืออื่น ๆ
อะไรเป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคปริทันต์?
อ่านรายละเอียดได้ที่ " การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล "
หน้าแรก > รวมบทความสุขภาพ > ปริทันต์อักเสบ โรคอันตรายที่เกิดขึ้นภายในช่องปาก